Red Glittery Cute Ribbon Bow Tie

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่7

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Project Approach 

โครงการที่พี่ๆชั้นปีที่ 5 ได้นำมาจัดนิทรรศการ คือหัวข้อ ในหลวง โดยการดำเนินการของพี่ๆแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยเริ่มต้นที่ 

☞ระยะที่ 1 ระยะเริ่มต้น ครูและเด็กๆได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์เดิมและตั้งคำถามต่างๆโดยคำถามที่น่าสนใจมากที่สุดคือ ข้าวมาจากไหน?
☞ระยะที่ 2 ระยะพัฒนา ในระยะนี้ครูได้จัดโครงการขึ้นมา ซึ่งในระยะนี้ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ โดยครูและเด็กๆได้ทำ ไข่พระอาทิตย์ ร่วมกัน
☞ระยะที่ 3 ระยะสรุป ครูเปิดโอกาสให้เด็กได้แลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้รับในการจัดโครงการครั้งนี้ พร้อมกับประเมินผลสะท้อนกลับจากการทำไข่พระอาทิตย์ การที่ได้ทำไข่พระอาทิตย์นั้นทำให้เด็กๆได้รู้ขั้นตอนและวิธีการทำไข่พระอาทิตย์ โดยการทำไข่พระอาทิตย์นั้นได้ใช้หลัก STEM เข้ามาใช้ทำเด็กได้เกิดกระบวนการเรียนรู้

S = Science (วิทยาศาสตร์) ให้เด็กได้สังเกตลักษณะของไข่ก่อนและหลังทอดว่ามีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร เช่น สถานะของไข่ที่เปลี่ยนจากเหลวไปแข็ง
➴T = Technology (เทคโนโลยี) ให้เด็กได้เรียนรู้การทอดไข่โดยการใช้การใช้กระทะไฟฟ้าในการทอดไข่
➴E = Engineering (วิศวกรรมศาสตร์) ให้เด็กได้เลือกส่วนผสมที่จะใส่ในไข่พระอาทิตย์ เช่น แครอท เห็ด มะเขือเทศ ต้นหอม 
➴M = Mathematics (คณิตศาสตร์) เด็กได้เรียนรู้สัดส่วนในการทำไข่พระอาทิตย์ว่าต้องใส่ส่วนผสมต่างๆกี่ช้อนชาหรือกี่ช้อนโต๊ะ









สื่อนวัตกรรมการสอน

เป็นสื่อที่พี่ๆได้ใช้ในการสอนเด็กๆแล้วได้นำมาจัดนิทรรศการ โดยพี่ได้บอกว่า สื่อที่ไม่พังคือสื่อที่ไม่มีคุณภาพ ถ้าสื่อชิ้นใดที่เด็กได้นำมาเล่นหรือได้สัมผัสบ่อยๆ สภาพของสื่อก็จะเกิดการขาดหรือชำรุด แต่ถ้าสื่อยังคงดูสวยงามอยู่ แสดงว่าเด็กไม่จับเล่น ไม่น่าสนใจ



แผนการจัดการเรียนรู้

ในการจัดการเรียนรู้ของรัฐบาลและเอกชนมีความแตกต่างกัน มีวิธีการเขียนแผนการสอนที่แตกต่างกัน แต่ทั้งรัฐบาลและเอกชนต่างก็เน้นที่การส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านของเด็กเหมือนกัน โดยครูจะไม่สอนให้เด็กหัดอ่าน หัดเขียน เพราะเด็กจะไม่ได้พัฒการทักษะตามที่รัฐบาลและเอกชนกำหนด




การประเมิน
ตนเอง ค่อนข้างสนใจในProject Approachมากเพราะหัวข้อโครงการค่อนข้างน่าสนใจ และได้เรียนรู้กระบวนการจัดทำโครงการ พร้อมทั้งได้เข้าใจหลักSTEMมากยิ่งขึ้น
อาจารย์ มีการสรุปในสิ่งที่พี่ๆได้อธิบายให้พวกเราเข้าใจอย่างกระจ่างมากยิ่งขึ้น
สภาพแวดล้อม การจัดนิทรรศการของพี่ๆแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ดึงดูดความสนใจให้อยากเข้าไปศึกษาหาความรู้

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่6

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

◆ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปฐมวัย

     ♫สาระที่3เรขาคณิต มาตรฐาน 
     ค.ป. 3.1 : รู้จักใช้คำในการบอกตำแหน่ง ทิศทาง และระยะทาง มาตรฐาน 
     ค.ป. 3.2 : รู้จัก จำแนกรูปเรขาคณิต และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการจัดกระทำ
-ตำแหน่ง ทิศทาง และระยะทาง
การบอกตำแหน่ง ทิศทาง และระยะทางของสิ่งของนั้นๆ
-รูปเรขาคณิตสามมิติ และรูปเรขาคณิตสองมิติ
●ทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก
●รูปทรงกลม รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม
●การเปลี่ยนแปลงรูปแบบเรขาคณิตสองมิติ
●การสร้างสรรค์งานศิลปะจากรูปเรขาคณิตสามมิติและสองมิติ





     สาระที่ 4 : พีชคณิต 
     มาตรฐาน ค.ป. 4.1 : เข้าใจแบบรูปและความสัมพันธ์



     สาระที่ 5 : การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น 
     มาตรฐาน ค.ป. 5.1 : รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อม และนำเสนอ
-การเก็บข้อมูลและการนำเสนอ
การนำเสนอข้อมูลในรูปแผนภูมิอย่างง่าย

     สาระที่ 6 : ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 
     การแก้ปัญหา การให้เหคุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆทางคณิตศาสตร์ และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่นๆและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

การประเมิน
ตนเอง สามารถตอบคำถามที่อาจารย์ถามได้บ้างบางข้อ ส่วนข้อที่ยังตอบไม่ได้ก็จะพยายามศึกษาให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นและจะตอบคำถามทุกครั้งที่อาจารย์ถาม
อาจารย์ มีการยกตัวอย่างในแต่ละหัวข้อเพื่อให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาที่เรียนมากยิ่งขึ้น
สภาพแวดล้อม เงียบสงบและมีแสงสว่างเหมาะกับการทำการเรียนการสอน


วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่5

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

     ◆ ความรู้เชิงคณิตศาสตร์
     แบ่งออกเป็น4ประเภท
-ความรู้ทางกายภาพ
-ความรู้ทางสังคม
-ความรู้เชิงตรรกะศาสตร์
-ความรู้เชิงสัญลักษณ์

     ●ความรู้ทางกายภาพ (Physical Knowledge)  เป็นความรู้ที่ได้จากการสังเกตสิ่งต่างๆ  ด้วยการรับรู้จากประสาทสัมผัส  เช่น  สี  รูปร่างลักษณะ  ขนาด

     ●ความรู้ทางสังคม (Social Knowledge)  เป็นความรู้ที่ได้รับจาการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น  เป็นสิ่งที่เราได้รับจากการเรียนรู้  เช่น  
                                         หนึ่งสัปดาห์มี 7 วัน  
                                         หนึ่งเดือนมี  28  29  30  หรือ  31  วัน  
                                         หนึ่งปีมี  12  เดือน

     ●ความรู้เชิงตรรกะคณิตศาสตร์  (Logical-mathematic Knowledge)  เป็นความรู้ที่เกิดจากการเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ  โดยความรู้นี้เกิดจากการสังเกต  สำรวจ  และทดลองกระทำกับสิ่งต่างๆ  เพื่อจัดระบบและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของสิ่งเหล่านั้น  เช่น  การนับจำนวนสิ่งของกลุ่มหนึ่งและนับได้จำนวนทั้งหมดเท่ากับสี่  ซึ่งจำนวนสี่เป็นค่าของจำนวนสิ่งของทั้งหมดในกลุ่ม  หากแยกออกจากกลุ่มจะไม่ได้มีความหมายเท่ากับจำนวนสี่

     ●ความรู้เชิงสัญลักษณ์  (Symbolic Knowledge)  เป็นความรู้เกี่ยวกับวิธีการแสดงสิ่งที่รู้ด้วยสัญลักษณ์  การเกิดความรู้นี้ต้องอาศัยการมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับสิ่งนั้นและสามารถสร้างเป็นความรู้เชิงตรรกะคณิตศาสตร์โดยมีความเข้าใจในสิ่งนั้นอย่างชัดเจนจนสามารถนำสิ่งอื่นหรือสัญลักษณ์มาแทนได้  เช่น  เมื่อนับจำนวนผลไม้ 8 ผลในตะกร้า  แล้ววาดภาพวงกลมให้เท่ากับจำนวนผลไม้  โดยเขียนตัวเลข 8 แทนจำนวนผลไม้ทั้งหมด  

      ◆ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปฐมวัย
มาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำคัญในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็ก รวมทั้งเป็นแนวทางในการกำกับ ตรวจสอบ และประเมินผล  มาตรฐานการเรียนรู้จัดให้อยู่ภายใต้สาระหลัก ดังนี้  
     สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนินการ
     สาระที่ 2 : การวัด 
     สาระที่ 3 : เรขาคณิต
     สาระที่ 4 : พีชคณิต
     สาระที่ 5 : การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น 
     สาระที่ 6 : ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์

     ♫ สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนินการ มาตรฐาน ค.ป. 1.1 : เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวน และการใช้จำนวนในชีวิตจริง  
จำนวน
การใช้จำนวนบอกปริมาณ
การอ่านตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย
การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิกแสดงจำนวน
การเปรียบเทียบจำนว
การเรียงลำดับจำนวน
- การรวมและการแยกกลุ่ม
ความหมายของการรวม
การรวมสิ่งต่างๆสองกลุ่มที่ผลไม่เกิน10
ความหมายของการแยก
การแยกกลุ่มย่อยออกจากกลุ่มใหญ่ที่มีจำนวนไม่เกิน10

      ♫ สาระที่ 2 : การวัด มาตรฐาน ค.ป. 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด ความยาว น้ำหนัก ปริมาตร เงิน และเวลา
- ความยาว น้ำหนัก ปริมาตร
เปรียบเทียบ/การวัด/การเรียงลำดับความยาว
เปรียบเทียบ/การชั่ง/การเรียงลำดับน้ำหนัก
เปรียบเทียบปริมาตร/การตวง
(กาเปรียบเทียบต้องมีจุดเริ่มต้นที่เท่ากันเสมอ)
- เงิน
ชนิดและค่าของเงิน เหรียญและธนบัตร
- เวลา
ช่วงเวลาในแต่ละวัน เช่น ช่วงเช้า ช่วงบ่าย ช่วงเย็น
ชื่อวันในสัปดาห์และคำที่ใช้บอกเกี่ยวกับวัน

การประเมิน
ตนเอง มีการโต้ตอบกับอาจารย์เวลาอาจารย์ตั้งคำถามมากยิ่งขึ้น การเรียนในคาบนี้ทำให้เข้าใจความรู้เชิงคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น
อาจารย์ อาจารย์มีความใจเย็นในการอธิบายเนื้อหาต่างๆให้นักศึกษาเข้าใจเป็นอย่างดี และมีเพลงมาคั่นระหว่างการเรียนการสอนเพื่อไม่ให้นักศึกษาเบื่อในระหว่างเรียน
สภาพแวดล้อม บรรยากาศในห้องเรียนค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการเรียนการสอน